3/31/2553

ภาพหัวใจที่....เอ็มเอไอ เลเซอร์ & สปา



3/25/2553

แนะนำหนังสือดีดี

สองสามวันนี้ว่าง....ไม่ใช่จากงานประจำนะ แต่จากงานที่ยิ่งกว่างานประจำคือหน้าที่แม่
(ไม่รู้แม่เลี้ยงเรามาได้ยังไง 7-8 คน ซึ้งในความเสียสละของแม่จริงๆ )
จากที่จะได้นอนตื่นสายๆ นอนดึก เล่นคอม อ่านนิยายดึกยันเช้า สรุปว่าทำอะไรตามใจตัวเอง
ไม่ได้เลยเพราะไม่มีคนช่วยเหมือนแต่ก่อน (แม่บ้าน-พี่เลี้ยง) ไม่ต้องพูดถึงเวลาให้ตัวเอง
คุณแม่ยุคใหม่หลายคนคงเป็นแบบนี้ ต้องทำงานหาเงิน งานบ้าน เลี้ยงลูก
ต้องสามารถไม่งั้นจะแย่หมด ทั้งสามงาน
หลังจากจัดการส่งเด็กไปป่วน ป้าๆ ที่ภูเก็ตแทน ก็ได้เวลา ว่าง....ทำอะไรไม่ถูกเวลา
มันเหลือเยอะ......จัง
ช่วงนี้จึงได้อ่านหนังสือเล่มนึง วางไว้ที่หัวนอนหลายเดือนแล้ว
ซื้อมาเพราะเป็นหนังสือธรรมะ ทำสมาธิที่สวยมากโดนเฉพาะภาพประกอบด้านใน
แล้วก็ได้เวลาลงมืออ่าน ( อา....เข้าเรื่องซะที )

" แนวทางปฏิบัติภาวนา หลวงพ่อทูล ขิปปญโญ "















อ่านแล้วรู้สึกเข้าใจการทำสมาธิมากขึ้น ปกติไม่ได้ทำเก่งอะไรหรอกนะ
แต่รู้ว่ายิ่งควบคุม ยิ่งเงียบ ยิ่งฟุ้ง อ่านบทแนะนำก็ซึ้งใจ

" อุบายที่จะจับหลักภาวนาเบื้องต้นขึ้นกับอารมณ์ของใจ
ถ้าใจเราชอบสงบ เราก็เอาสมถะเดินก่อน เอาปัญญาตามหลัง
ถ้าใจเราชอบคิดโน่นคิดนี่เรา ต้องเอาปัญญานำก่อนแล้วเอาสมถะตามหลัง "
เห็นไม๊ การฝึกจิตก็ต้องมีเทคนิคหรือครูคอยชี้นำ
อีกเล่มคือ

หนังสือโยคะ ." โยคะเพื่อสุขภาพ โดย ครูหนู ชมชื่น สิทธิเวช "








อ่านไป ฝึกไป ค้นพบว่าการหายใจอย่างเป็นสมาธิตามหลักโยคะที่ถูกต้อง
ทำให้รู้สึกโล่งโปร่งสบาย
เพราะก่อนหน้านี้เวลาเรียนจะรู้จักอึดอัดกับการหายใจไม่สามารถทำตามครูสอนได้
จึงกลั้นหายใจ บ่อยๆจนทำให้ เวียนหัวตลอด
แต่คำแนะนำของครุหนุทำให้เข้าใจและฝึกตามได้ดีขึ้น
เวลาฝึกทั้งใจและกาย สบายอย่างบอกไม่ถูก
เข้าใจความรู้สึกของคนที่หลงใหลในโยคะขึ้นทันที ไม่ต้องสงสัยในพลังบำบัดจากโยคะเลย
น่าจะคล้ายการฝึกสมาธิโดย เพ่งที่กาย แบบหลักพุทธศาสนา



ตอนนี้จึงพยายามตั้งใจฝึกโยคะให้มากขึ้น
นั่งเหยียดขาเอาศรีษะแตะเข่าได้แล้วนะ (ท่าคีม)
ก่อนหน้านี้ยัง...ตึงก้มได้ยากอยู่เลย.........

3/17/2553

เลเซอร์รักษาฝ้า II










การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์แบบ "Laser Toning" เป็นการรักษาฝ้าด้วยเครื่องเลเซอร์แย็ค Nd-Yag ซึ่งมีความเฉพาะเจาะจงในการทำลายเม็ดสีในผิวหนังชั้นตื้นและลึก โดยไม่ทำให้เกิดแผลหรือรอยต่อผิวหนัง จึงทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น สีผิวขาวสม่ำเสมอ ตึง รูขุมขนเล็กลง









ช่วยปรับ-ลดจำนวนเม็ดสีที่ทำงานผิดปกติ ให้สมดุลย์ขึ้น จึงเป็นที่นิยมมากทั้งในเอเชียโดยเฉพาะ เกาหลีและ อเมริกา ในปัจจุบัน

เลเซอร์รักษาฝ้า



Laser toning by Spectra VRM III


การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์รุ่นใหม่
หยุดยั้งการเกิด ฝ้า ที่ต้นตอ



  • โดยการทำลายเซลล์สีที่ทำงานเกินพอดี และ ปรับสมดุลให้กับผิวอย่างนุ่มนวลโดยไม่มีแผล ไม่ทำให้หน้าบางลง ไม่จำเป็นต้องหยุดงาน

  • ลดการใช้ยาฝ้าซึ่งมีผลข้างเคียงอันตรายและมักมีปัญหาหน้าดำขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อหยุดใช้

  • แก้ไขฝ้าลึกซึ่งรักษายาก และ ปัญหาผิวกระดำ- กระด่าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ

  • ผิวสุขภาพดีขึ้น ปัญหาผิว อาทิ เช่น ทำให้กระ-กระลึก-ริ้วรอย-จางลง ลดขนาดรูขุมขน

  • ป้องกันการเกิด ฝ้า ในระยะยาว

3/16/2553

งานอดิเรกของฉัน








ฝันอยากเป็น artist แต่แล้วก็ไม่ได้เป็น
เวบนี้ให้โอกาสเราได้สร้างสรรค์ภาพ
งานในแบบที่แปลกใหม่....ทั้งด้านแฟชั่น
ตกแต่งภายใน ศิลปะสมัยใหม่
การได้เข้าไปดูคนอื่นจากทั่วโลก สร้างสรรค์ทำให้จินตนาการ
ของเรากว้างไกลไปจากเดิม บางคนมาจากประเทศที่เราไม่รู้จักแต่
ผสมผสานงานออกมาราวกับเป็นดีไซเนอร์ หรือศิลปินชื่อดัง
ว่างๆ......แวะเข้าไปดูนะ แล้วคุณจะติดใจ













3/11/2553

งาน CAWAII DAY โรงแรมลีการ์เดน หาดใหญ่ 7/3/2010

คุยกับน้องบอย DJ สุดหล่อแห่ง 93 Mass FM " เรื่องการดูแลสิวในวัยรุ่น "

หนุ่มสาวหน้าใสที่เข้าร่วมประกวด ในงาน CAWAII DAY 2010

น้องจุก Make up Artist ฝีมือดี มอบรางวัล CAWAII TRENDY ให้น้องตัวแทนจาก เอ็มเอไอ เลเซอร์ & สปา

3/10/2553

แด่ Bae Yong Joon




ถ้าคุณยังไม่รู้จักเขาคนนี้ แนะนำว่าควรเริ่มจากการหาหนังดังอย่าง "Winter Love Song " เพลงรักในสายลมหนาว มาดูก่อน
หนังรักโรแมนติกแต่ติดรันทดประมาณเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ที่หลายคนชอบแต่อาจน่าเบื่อ(มากกกกก)สำหรับบางคน
แต่ถ้ายังไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาถึงสมควรเป็น ซุเปอร์สตาร์ ละก็ ขอให้ไปดูเรื่องนี้
"The LeGend" หนังถ่ายทอดตำนานความเชื่อของจุดเริ่มต้นของคนเกาหลี ผ่านความรักและการชิงดีชิงเด่นที่ไม่เวอร์เกินจริง
การดำเนินเรื่องแบบเกาหลีที่ส่งให้หนังมีเสน่ห์ชวนติดตาม และทำให้ตัวละครโดดเด่น
น่าจดจำ ต้องยกให้คนเขียนบท ผู้กำกับและนักแสดงขวัญใจสาวทั่วเอเชียคนนี้
......Bae Yong Joon

แอล-คาร์นิทีน กับ การลดน้ำหนัก


แอลคาร์นิทีน(L-Carnitine) เป็นชื่อกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ผลิตได้ที่ตับ โดยปกติจะพบในสัตว์เนื้อแดงชนิดต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนกล้ามเนื้อลายจะมากเป็นพิเศษ
หน้าที่หลักของ Carnitine จะช่วยลำเลียงโมเลกุลไขมันเล็กๆ เข้าไปใช้ในเซลล์ต่างๆ ซึ่งในจุดนี้เองที่จะทำให้เกิดการนำไขมันไปเปลี่ยนเป็นพลังงาน ดังนั้นหากร่างกายขาดสาร Carnitine หรือมีไม่เพียงพอที่จะเป็นตัวพาเม็ดไขมันไปเผาผลาญแล้ว ปัญหาสุขภาพอันเนื่องมาจากไขมันสะสม เช่น ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง อ้วน-น้ำหนักเพิ่มง่ายแต่ลดยาก หรืออาจจะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ซึมและเหนื่อยง่าย ขาดความกระฉับกระเฉง

10 เหตุผลที่เลือกใช้แอลคาร์นิทีน (Carnitine)
1. ทำให้เราแก่ช้าลง เพราะ เซลล์ในร่างกายของเราทุกๆ เซลล์จะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อ ได้รับพลังงานเพียงพอและเหมาะสม คาร์นิทีนนี่เองที่เข้าไปช่วยทำให้เซลล์มีอายุยืนนานขึ้น
2. คาร์นิทีนทำให้ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ (triglycerides) ในเลือดต่ำ และช่วยเพิ่มระดับ HDL (ไขมันดี) ในเลือด
3. ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โดยมีผลทำให้สุขภาพโดยรวมของหัวใจดีขึ้น และช่วยป้องกันการเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวด้วย
4. คาร์นิทีนช่วยทำให้น้ำหนักลด โดยเฉพาะถ้าใช้ร่วมกันวิธีการที่เราลดอาหารจำพวกแป้งลงในอาหารแต่ละมื้อ
5. คาร์นิทีนช่วยเพิ่มระดับพลังงานของร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่ทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บหรือเกิดความเสียหายใดๆ กับร่างกาย
6. คาร์นิทีนช่วยให้ความสามารถในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น มีความทนทานมากขึ้น และป้องกันเนื้อเยื่อไม่ให้เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากปริมาณออกซิเจนในเซลล์ไม่เพียงพอ
7. ทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น
8. ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ประสาทอันเนื่องมาจากความเครียด และอาจจะมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer) ด้วย แต่ได้ผลเฉพาะในผู้ป่วยที่มีอายุน้อย ทำให้อาการของโรคไม่เป็นไปมากกว่านี้
9. อะซีทิล-แอล-คาร์นิทีน มีผลต่อสุขภาพจิตในทางบวก และลดภาวะความเครียดได้
10. คาร์นิทีนช่วยในการทำงานของตับ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของเราด้วย
ข้อควรระวังในการใช้แอล-คาร์นิทีน
คาร์นิทีน อาจจะเข้าทำปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ที่กินร่วมกัน ดังนั้นการใช้แต่ละครั้ง ควรต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของแพทย์

3/09/2553

รัก" CHANEL"จัง










2ใบแรก เป็นชาแนลรุ่นวินเทจ ที่ออกมานานพอสมควรแล้ว แต่ยังมีประมูล ขายตามเวบต่างๆ ส่วน 2ใบสีดำ น่าจะออกมาปีที่แล้ว.....

ดูแล้วเกิดกิเลสจริงๆ๐

การรักษาสิว



การรักษา


ขึ้นกับความรุนแรงของสิว โดยมีจุดประสงค์หลักไม่ให้เกิดรอยแผลเป็น
การใช้ยาที่ถูกต้องควรอยู่ในการดูแลของแพทย์
สิวไม่อักเสบ

มี สิวหัวดำ หรือสิวหัวขาว กระจายบนใบหน้า ควรใช้ยาเพื่อทำให้หัวสิวหลุดออกได้เร็วขึ้น
และป้องกันไม่ให้เกิดไขมันอุดตัน เช่น ยาทากลุ่มกรดวิตามินเอ หรือเรตินอยด์ เบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ (BP) โดยยาจะออกฤทธิ์ต่อเมื่อทาไปแล้ว 3-6 สัปดาห์ (ดังนั้นหากเพียง 5-6 วันสิวไม่ดีขึ้นก็ไม่ควรกังวลหรือหยุดใช้ยา )
สิวอักเสบ
สิวหัวแดง หรือ สิวหัวหนอง ควรใช้ยาทากลุ่มกรดวิตามินเอ หรือเรตินอยด์ ร่วมกับ ยาปฏิชีวนะชนิดทา
**หากมีปัญหาสิวที่เกี่ยวข้องกับรอบเดือน อาจเลือกใช้ยาคุมกำเนิดก็จะช่วยควบคุมสิวได้
สิวหัวช้าง หรือ สิวบริเวณหน้าอก แผ่นหลัง หรือในกรณีเป็นสิวค่อนข้างมาก ควรเริ่มด้วยยารับประทานและอาจใช้ร่วมกับยาทาไปพร้อมๆกัน เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่รวดเร็วและป้องกันการเกิดแผลเป็น ควรให้ยาติดต่อกันนานประมาณ 6-8 เดือน

สิว..เห่อ




สิวเป็นโรคหรือปัญหาของต่อมไขมันของผิวหนังที่พบบ่อยที่สุด
สิวในผู้หญิงมักพบในอายุช่วง 14-17 ปี และในผู้ชายช่วงอายุ 16-19 ปี โดยที่ในช่วงวัยรุ่น ผู้ชายจะเป็นสิวมากกว่าผู้หญิง แต่ในวัยผู้ใหญ่กลับพบว่าผู้หญิงเป็นสิวมากกว่าผู้ชาย หลังอายุ 25 ปี ผู้ชายร้อยละ 5 ผู้หญิงร้อยละ 12 จะยังคงเป็นสิว


สาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคสิว
มีหลายอย่าง ได้แก่
1. ความผิดปกติของการหลุดลอกของเซลล์ในท่อรูขุมขน ทำให้เกิดไขมันอุดตันเป็นก้อน เรียกว่า
“คอมีโดน”(comedone)
2. เชื้อแบคทีเรียในผิวหนัง คือที่เรียกว่า P. Acne ทำให้เกิดสิวอักเสบ เพราะมันจะหลั่งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบบวมแดง ในบริเวณที่มีไขมันอุดตัน
3. ฮอร์โมนแอนโดรเจน (androgen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชายที่พบได้ทั้งในชายและหญิง ทำให้ต่อมไขมันที่ผิวหนังโตขึ้น และทำงานหลั่งไขมันมากขึ้น ฮอร์โมนตัวนี้มีระดับสูงในวัยรุ่น ทำให้วัยรุ่นเป็นสิวมาก
4. ฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง เมื่อมีประจำเดือนจะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนตัวนี้ในร่างกาย ดังนั้น ในผู้หญิงบางคนจะพบว่ามีสิวเห่อและสิวหายเป็นระยะๆ ของรอบเดือนพันธุกรรม


สาเหตุทำให้สิวเห่อ หรือ สิวอักเสบเป็นมากขึ้น
1. ความเครียด ภาวะที่ร่างกายอดนอน หรือนอนดึก หรือสตรีในขณะมีประจำเดือน จะมีการหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้น อีกทั้งความต้านทานของร่างกายจะลดต่ำลง ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตมากขึ้น
2. การบีบ การแกะ การขัดถูสิว ตลอดจนการล้างหน้าบ่อยๆ เช็ดหน้าแรงๆ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อลุกลามได้
3. ปัจจัยจากภายนอกร่างกาย
สำหรับผู้ที่ผ่านพ้นวัยรุ่นไปแล้วยังคงเป็นสิว มักเกิดจากปัจจัยภายนอก
เช่น สารเคมีในสบู่บางชนิด ครีมบำรุงผิว น้ำมัน และโลชันบางชนิด สารสตีรอยด์ทั้งชนิดทาและชนิดกิน ยากินที่ก่อสิว ได้แก่ ฮอร์โมนต่างๆ ยาที่มีส่วนผสมของเกลือโบรไมด์ ไอโอไดด์ เช่น ยาแก้ไอบางขนาน เป็นต้น