4/23/2553

เด็กน้อยกับลูกแมว



ลูกแมวเปอร์เซีย น่ารักตัวนี้เป็นแมวสามสี มีชื่อว่า " แชมพู ( Shampoo ) "

หน้าไม่แบนนะจ้ะ หน้าเหมือนตุ๊กตามากกว่า เลยไม่รู้ว่าจะเรียกว่าแมวพันธุ์อะไรดี

มันเหนื่อยมากๆๆๆ เพราะบีบี กวนมันตลอด จนมันต้องหนีไปแอบในซอกบ่อยๆ

เอาใจช่วยให้ แชมพูรอดพ้นเงื้อมมือของบีบี ด้วยนะ....ฮือ ฮือ





4/21/2553

สงกรานต์ที่เกาะยาว 2010 Songkarn at Kao Yao

เรือ speed boat ออกจากท่าเรืออ่าวปอ ไป เกาะยาว เรือนั่งสบายมาก มาก..จาก เกาะยาว ไอซ์แลนด์ รีสอร์ท

พี่ชายน้องเอง หล่อไม๊......เยิ่นต้ะหัว มาเอง

กับพี่ฝน สุดสวย ผู้ช่วยสร้างสรรค์ความงาม ให้แก่ เกาะยาว ไอซแลนด์ รีสอร์ท
งานเซรามิกเก๋...หน้าลอบบี้ และ ป้ายบอกทาง




ส่วนลอบบี้ต้อนรับ เก๋มากเหมือนอยู่แถว เคนย่า แอฟริกา

ห้องสมุดและอินเตอร์เนท มองออกไปเห็นทะเล

ห้องนอน และ ห้องน้ำในเรือนพักหลังใหญ่ Cozy สุดๆ


แม่ครับ... หนุกจัง


ยามบ่าย หลังมื้อเที่ยงแสนอร่อย เด็กเด็ก ไปเล่นน้ำทีสระว่ายน้ำ ริมทะเล

ก๊วนเด็ก...ดริ๊งกัน ริมสระน้ำ ก่อนแยกย้ายกลับที่พัก

เรือนหลังเล็ก กระจายอยู่ท่ามกลางแมกไม้

มุมเอกเขนก หน้าห้องนอน

บีบี กับ น้าเปิ้ล รอดินเนอร์ท่ามกลางแสงจันทร์ ฟังดูเย็นสบาย แต่ อากาศคืนนั้น 35 องศา...ฮือ

เซนกอดแม่อยู่ในห้องโถง...สบายกว่าเยอะ รักแม่คับ...

ริมทะเลยามเช้ากับคุณพ่อ เวลาน้ำลดมีกุ้ง หอย ปู ปลา ให้ดูเยอะ เด็กๆสนุกกันมาก

อ้าว...เซน เซน ตื่นแล้ว หน้าเหมือนกันสามคนเลย

สองพี่น้องเล่นสร้างบ้านกัน...
วันนี้จะขึ้นเรือกลับแล้วละ หนุกหนานกันมาก ต้องขอบคุณพี่ฝน พี่เชิญ และที่สำคัญ คุณนายติ่งและน้องรินเจ้าของรีสอร์ท สำหรับที่พักแสนพิเศษในครั้งนี้ ลาละคะ

4/20/2553

ดอกไม้บานที่ Ottawa Canada



ภาพสวนสวยจากแคนาดา ขอบคุณป้าอ้อยสำหรับรูปสวยๆเห็นแล้วชื่นใจจริงๆ
ตอนนี้เมืองไทยก็มีดอกไม้บาน เช่น ดอกคูณ ราชพฤกษ์ ตะแบก เสลา ศรีตรัง
เดี๋ยวจะถ่ายรูปมาให้ดูนะ

4/12/2553

การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ 2




การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยแม้จะใช้เครื่องเลเซอร์ชั้นยอดหรือแม้แต่

เลเซอร์ที่ผ่านการการันตีจาก FDA หรือองค์การอาหารยาและของสหรัฐอเมริกาก็ตาม

หมอหลายคนคงรู้สึกเช่นเดียวกันหลังจากต้องพยายามทำให้ฝ้าของคนไข้หายไป

แล้วกลับพบว่า ฝ้าเข้มกว่าเดิมหรือไม่จางเลย


จำได้ว่าตอนเรียนกับอาจารย์นิวัติ ดูงานของท่านเหมือนเป็นเรื่องง่าย เวลาท่านทำเลเซอร์

ก็ดูสบายๆ ขยับมือไปมาแล้วผลก็ออกมาน่าพอใจ พิสูจน์ได้จากรูปถ่ายที่ได้มาตราฐาน

พอมาทำงานนี้ด้วยตัวเองจึงรู้ว่า


1. การขยับของมือหรือ Hand Skill มีผลต่อผลรับที่เกิดขึ้นอย่างมาก
เราไม่สามารถนั่งข้างอาจารย์ หรืออ่านตำราหรือคู่มือเครื่อง แล้วสามารถทำเลียนแบบได้
ทำให้ผลลัพท์ไม่ค่อยแน่นอนในช่วงแรกของการใช้ ดังนั้นเวลาที่เรียกว่า ระยะเวลาเรียนรู้หรือ Learning curve จึงจำเป็นต่อการทำเลเซอร์มากพอควร (คล้ายการผ่าตัด)
เนื่องจากเราไม่สามารถมองเห็นลำแสงเลเซอร์เพราะความเร็วของแสงเลเซอร์ปัจจุบันเป็น 5- 10 นาโนของวินาทีซึ่งเร็วมากเพื่อให้ทำลายจุดที่ต้องการโดยมีความร้อนหรืออันตรายต่อเนื้อเยื่อใกล้เคียงน้อยที่สุด อีกทั้งตำราหรือรายงานการวิจัยมักไม่ได้ระบุรายละเอียดส่วนนี้ไว้ แพทย์จึงต้องเรียนและพัฒนาเทคนิค-สไตล์ของตัวเองขึ้นมา


2. การสังเกตุและบันทึก ก่อน-ขณะทำ-หลังทำเลเซอร์ ว่าผิวหนังและรอยโรคมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไร เป็นเื่รื่องสำคัญมาก รวมถึงถ่ายภาพก่อนทำหัตถการและติดตามผล ไม่งั้นเราจะไม่สามารถพัฒนาฝีมือและใช้ประโยชน์ของเลเซอร์ชนิดนั้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ


โชคดีที่มีอาจารย์คอยให้คำแนะนำและชี้แนะ แม้จะผ่านการเรียนกับท่านไปแล้วยังสามารถส่งรูปและประวัติคนไข้มาปรึกษาได้ จึงยิ่งทำให้รู้สึกว่าความรู้และประสบการณ์ที่อาจารย์สั่งสมมานั้นคงมากมาย
จนตอบคำถามศิษย์ได้ทุกเรื่อง ( อาจารย์น่ารักและใจดีมากค่ะ)
ดังนั้นการไปร่วมงานประชุมและแลกเปลื่ยนประสบการณ์กับแพทย์ท่านอื่นจึงเป็นเรื่องสำคัญ ในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพ ตอนนี้กำลังจะมีงานประชุม ADLAS ครั้งที่ 3 28-29/5/2010 ที่ประเทศสิงคโปร์ ณ Resort World Sentosa ศุนย์ประชุม โรงแรม ซึ่งรวมเอาสวนสนุกใหม่ล่าสุดของเอเชียไว้ด้วย นั่นคือ
Universal Studio นั่นเอง เคยไปสวนสนุกยูนิเวอร์แซลแห่งแรกที่ฟลอริดา สหรัฐอเมริกากับพี่สาวอีกสองคน เมื่อปี 2538 จำได้ว่าสนุกที่สุดในชีวิต และมีโอกาศไปสวนสนุกนี้อีกครั้งที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ปี 2552 ที่ผ่านมา คนเยอะมาก 1 วันได้เล่นเครื่องเล่นอย่างเดียว(รอคิวสองชั่วโมง) คือ Juressic Park ทำให้เข็ดสวนสนุกญี่ปุ่นไปเลย
( รอบนี้ที่สิงคโปร์จะขอแวะไปลองดูซักหน่อยไม่รู้คนเยอะ หรือปล่าว ตามประสาคนรักสวนสนุก....)

งาน ADLAS นี้รวมหมอที่มีประสบการณ์การใช้เลเซอร์ไว้ด้วยกัน (มีอาจารย์นิวัติเป็นหนึ่งในกรรมการของสมาคมด้วย) ได้ความรู้อะไรใหม่ๆจะมาเล่าสู่กันฟัง..นะคะ...

4/09/2553

คนรักตลาดนัด Flea Market Fever

เย็นวันนี้เลิกงานเร็วจึงไปเดินตลาดกรีนเวส์ หาดใหญ่ อยู่ใกล้บ้านมาก ถ้าเดินไปคงซัก 10 นาที แต่ตลาดบ้านเราไม่เหมือนตลาดในต่างประเทศเพราะวันนี้ฟ้ามืดแล้ วยัง 32 องศาอยู่เลยและไม่มีลมพัดมาซักนิด ยืนยันได้จากข้อมูลพยากรณ์อากาศใน igoogle แจ้งว่า ความเร็วลม 0 กม./ชม. เฮ้อ....ร้อนจริงจริง ๆ ๆ
ร้อนแล้วไปเดินทำไมไม่อยู่บ้านเฉยๆ

ความจริงมันมีที่มา ไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบนักกับตลาด โดยเฉพาะตลาดนัดที่เรียกว่า Flea market ซึ่งหมายถึง ตลาดที่ไม่ได้เปิดทุกวัน ต้องนัดกันมาขาย อาการนี้น่าจะเป็นมาตั้งแต่เด็กจำได้ว่าไปตลาดนัดขายหนังสือที่สนามหลวงเป็นครั้งแรกมีความสุขมาก ไม่ต้องซื้อหลอก แค่เดินดูก็มีความสุขแล้ว เหมือนกับเราไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรบ้างในแผงถัดไป ชอบหนังสือ ชอบของแต่งบ้าน ชอบของเก่า ชอบแต่งตัว ชอบต้นไม้ ชอบหาของอร่อย สรุปว่าชอบทุกอย่างในตลาด ที่ไปบ่อยสุดคงเป็นจตุจักร ยิ่งมีรถใต้ดินจากปากซอยพระราม 4 ตรงไปจตุจักรใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีเอง ไปกรุงเทพต้องไปจตุจักร จนตอนนี้ พี่ๆน้องๆเค้าเลิกไปด้วยแล้ว เค้าบอกว่าร้อน เดินไม่ไหว ไม่ต้องมาชวน

ในหาดใหญ่มีสองตลาดที่คนเดินเยอะ คือ ตลาดเปิดท้ายและตลาดกรีนเวส์ เดิมเปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่ตอนนี้เปิดต้งแต่วันพุธ ได้ข่าวว่าตอนนี้ ตลาดกรีนเวส์ มีจับรางวัลให้กับคนที่มาซื้อของวันพุธด้วย ไอเดียกิ๊บเก๋จริงๆเลย พี่ใหญ่ของเรา ( ขอแซวหน่อย ) ตลาดเสาร์อาทิตย์ที่สงขลา ตลาดเสาร์ที่คลองแงะ ก็ไปมาหมดแล้ว หากเป็น นครศรี บ้านเราก็ต้องตลาดเสาร์-อาทิตย์ บนถนนพัฒนาการคูขวาง ถ้าที่เชียงใหม่ตลาดคนเดินก็ไปหลายรอบแล้ว ไปญี่ปุ่นตลาดนัดที่เกียวโตก็ไปมาแล้วของเยอะ แปลก และน่าสนใจทั้งนั้น แต่ไม่ได้หอบอะไรกลับมาเพราะแบกเป้เดินทางของตัวเองก็หลังแทบหักแล้ว

ถ้าไปตลาดกรีนเวส์ ก็จะไปทานสุกี้รวมมิตรเจ้าประจำ หรือแวะกินชาเขียวเย็นร้านตูน-ต้า(อร่อยที่สุดในหาดใหญ่) เดินดูเสื้อผ้ามือสอง (ไว้คราวหน้านะจะเล่าเรื่องเสื้อให้ฟัง) เดินหาของเล่น ตุ๊กตาเก๋ ๆ ทั้งมือหนึ่งและสอง คุยกับพ่อค้าแม่ค้า เค้าบอกว่าของส่วนใหญ่มาจากสิงโปร์ ไปรับมาจากยะลาอีกที ... นี่ถ้าไม่กลัวระเบิดคงไปดูเองที่่ยะลาแล้วล

4/06/2553

แค่รู้...ก็ไม่หลงทางรัก" บทความดีดีจากคุณดังตฤณ


บทความดีดีที่อยากให้อ่าน....................

ทำไมนะคนเราถึงโหยหาที่จะมีความรัก"

นอกจากความเรียกร้องของสัญชาตญาณทางเพศแล้ว คนหนุ่มสาวหลายคนกำลังโหยหาความรัก เพราะไปสำคัญว่าความรักนี่แหละจะช่วยผลักไสให้ความเหงาและความโดดเดี่ยวที่ตนกำลังเผชิญอยู่ห่างออกไปได้ ทั้งที่มีหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อย กลับเหงาและโดดเดี่ยวมากขึ้นเมื่อมีความรัก พร้อมทั้งวิตกกังวลและว้าวุ่นใจเพราะคนที่รัก
เมื่อเราปรารถนาให้ใครสักคนมาอยู่ข้างกายหรือเป็นคู่รัก เราไม่มีทางรู้เลยว่าเหตุการณ์ต่อไปในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น พระพุทธองค์ตรัสว่าที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์เพราะความรักมีอีกชื่อหนึ่งว่า กามตัณหาซึ่งคือกิเลสอันเจือด้วย ราคะ เฝ้าแต่เรียกร้องต่างๆนานาให้ตอบสนองกันและกันอย่างไม่สิ้นสุด ดังนั้นเมื่อเรากำลังเหงาและว้าเหว่จากการไขว่คว้าหาความรักอยู่ล่ะก็ โปรดตระหนักรู้ว่า เราทุกข์เพราะ ความเหงาเท่านั้นเอง มันไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไหร่เลย ความเหงาเป็นเพียงคลื่นความคิดที่ผ่านเข้ามาเยี่ยมเยือนใจเราและก็ผ่านออกไป ขอให้การตระหนักรู้นี้อาบรดจิตใจของเราอยู่บ่อยๆ

"แล้วเราจะดูแลความเหงาได้อย่างไร"

เรามีวิธีเยียวยาความเหงาง่ายๆ คือ ไม่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ว่าง แต่สร้างกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันให้เป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ จรรโลงใจ และสามารถยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น เช่น การเล่นกีฬา พูดคุยเรื่องราวธรรมะ ช่วยเหลือสังคม หรือผู้ด้อยโอกาส เด็กกำพร้า คนชราที่ถูกทอดทิ้ง ทำบุญ ให้ทาน เป็นต้น ไม่ใช่กิจกรรมหรือเรื่องราวที่นำพาจิตใจของเราให้ไหลลงต่ำ หรือเรื่องราวที่วกเข้ามาสู่เรื่องเพศ ซึ่งจะทำให้เรามีจิตใจที่หม่นหมอง ดำมืด และหดหู่เพิ่มมากยิ่งขึ้นบางครั้งจะนำไปสู่ความเคียดแค้น ชิงชัง อันเป็นอารมณ์ทางลบ เพราะโดยปกติผู้ที่มีความหงอยเหงาจากความรักนั้น หากจิตใจฟุ้งซ่านและมีความคิดไหลลงต่ำแล้วมักจะวกหาเข้าสู่เรื่องเพศเสมอ
ความจริงเราได้ลิ้มรสความรักได้โดยไม่ต้องรอคอยให้ใครมาถึงตัวเสียก่อน เพียงเราตระหนักรู้ความคิดของเราให้ไปในทางที่ปรารถนาดีกับสรรพชีวิตอื่นๆได้ เราก็อยู่กับความรักในขณะนั้นๆแล้ว


"หากเรามีรักที่ไม่สมหวัง เราจะดูและความเศร้า ความน้อยอก น้อยใจของตัวเองได้อย่างไร"

ไม่เพียงแต่ความเหงา ความโกรธ ความน้อยใจ ก็ดี เราสามารถใช้อารมณ์เหล่านี้มาเป็นตัวตั้งในการเริ่มฝึกสร้างความปรารถนาดีได้ เมื่อไรก็ตามที่อารมณ์ด้านลบเหล่านี้เกิดขึ้น ขอให้เราเพียงแค่ตระหนักรู้เท่านั้นว่าอารมณ์ด้านลบเหล่านี้ได้เกิดขึ้นมาแล้ว ทำความรับรู้ถึงอารมณ์นั้นไปตรงๆ ทำความรู้สึกบ่อยๆ เราก็จะเลิกยึดอารมณ์ด้านลบเหล่านั้นไปเองโดยไม่ต้องข่มหรือพยายามใดๆ ยิ่งฝึกบ่อยๆก็จะยิ่งเห็นอารมณ์ด้านลบหายไปเร็วขึ้น เราจะไม่ปล่อยให้อารมณ์ด้านลบนี้ออกมาทางวาจาและการกระทำ ปล่อยให้เป็นเพียงควันที่ลอยฟุ้งอยู่ในความคิดเท่านั้น ไม่คิดถึงเรื่องต้นเหตุ แล้วในที่สุดมันจะหายไปให้ดูต่อหน้าต่อตา


ขอให้เราฝึกเช่นนี้ เราจะกลายเป็นนักดูอารมณ์ ไม่ถูกอารมณ์ครอบงำ ไม่แม้กระทั่งไปครอบงำอารมณ์ด้วย เหมือนแยกเป็นคนละฝ่าย ฝ่ายหนึ่งแสดงอารมณ์ให้ดู อีกฝ่ายรู้อารมณ์ไป ฝ่ายแสดงไม่ชอบให้มารู้ เมื่อมีฝ่ายมารู้ก็จะรีบหนีไปทันที เมื่อเราฝึกเช่นนี้จนถึงจุดหนึ่งเราจะรู้สึก โล่งอกขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นความโล่งอกสบายๆ อยู่เรื่อยๆ ไม่อยากเอาเรื่องเอาราวกับใคร มีความสุขกับใจของตนเองได้


"จริงๆแล้ว รักแท้มีจริงหรือเปล่า"


หนุ่มสาวเมื่อตกลงมาอยู่ในสภาวะคู่กัน ต่างต้องตระหนักรู้ว่าแต่ละคนแตกต่างกันเปรียบได้กับชิ้นส่วนอุปกรณ์ในโรงงานที่ต่างกัน แต่เมื่อนำมาประกอบกันแล้วจะต้องสามารถใช้การได้ดี ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจะต้องเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้ากันได้


ธรรมชาติการคบกันของหนุ่มสาวนั้น แตกต่างจากการคบกันแบบเพื่อน แบบพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ดังนั้นความดึงดูดกันจะมีอายุจำกัดจึงต้องเฝ้าเติมเหตุปัจจัยที่จะรักษาความดึงดูดเอาไว้ เฝ้าเติมไปจนล้าเมื่อใด ในที่สุดมันจะหมดลง เพราะความรักแบบนี้มีอายุได้นานเท่าที่เหตุปัจจัยยังคงอยู่


สิ่งที่ทำให้คู่รักดำรงอยู่ด้วยกันได้ คือบุญที่ทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้สึกกลมกลืน กลมเกลียวกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน หรือใกล้เคียงความเป็นหนึ่งเดียวกันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


บุญในที่นี้คือ การคิด การพูด การทำในสิ่งที่จะทำให้ความรู้สึกมีความดึงดูดต่อกัน ไม่ใช่การใส่บาตรหรือถวายสังฆทานเพราะสิ่งนี้จะสร้างอารมณ์หวานขึ้นมาได้ชั่ววูบใหญ่ๆ แต่ความรู้สึกที่เป็นรากแก้วหยั่ง ลึกลงไปอยู่ด้วยกัน ต้องอาศัยความคิด คำพูด และการกระทำที่ดีต่อกัน ในทางที่มีความนุ่มนวล ในทางที่เป็นมิตร โดยทั้งคู่ต้องปรับตัวเข้าหากัน ปรับคลื่นความคิด ปรับคำพูด และปรับการกระทำให้กลมกลืน กลมเกลียว และหยั่งรากอยู่ด้วยกัน นั่นคือความหมายของคู่รักที่แท้ ซึ่งไม่ได้มีอยู่อย่างถาวร มันมีการดำรงอยู่แค่อายุของบุญอันเกิดจากการปรับได้แล้วของความคิด คำพูด และการกระทำเท่านั้น นี่คือสิ่งที่พระพุทธศาสนาสอนไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมีรากมาจากความคิด คำพูด และการกระทำ


เมื่อเกิดปัญหาในภาวะคู่ขึ้นมา เราต้องตระหนักรู้ว่านั่นคือภาวะหนึ่ง เป็นความผูกพันระดับหนึ่ง มีความอดทนต่อการแตกร้าวระดับหนึ่ง ไม่ใช่ความเป็นเนื้อเดียวกันดุจธาตุกายสิทธิ์ที่ไม่มีทางพังพินาศ เราควรมองให้ถูกจุดว่าเรากำลังยึดถือในสิ่งที่ไม่สามารถยึดถือได้ เราต้องทำความเข้าใจตั้งแต่ต้นว่าเราต่างเป็นคนแปลกหน้าที่มาคบกัน เกิดจากความตกลงร่วมกัน สิ่งที่เกิดขึ้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา


"เราควรปฏิบัติอย่างไรกับรักที่ไม่ราบรื่น สมหวัง"

ในอีกทางหนึ่ง เรารู้แล้วว่าภาวะคู่ผูกพันด้วยสายใย จึงเป็นไปได้ที่จะสร้างเสริมสายใยขึ้นมาใหม่อย่างไม่จำกัด


เดิมมีสายใยที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอยู่ก่อน จากบุญเก่าในอดีตที่ทำไว้ระหว่างกัน เราจะวัดระดับว่าสายใยหนาแน่นแข็งแรงเพียงใด ก็ด้วยการลองเจอปัญหา หรือเจอสิ่งที่ไม่ชอบในตัวอีกฝ่าย แล้วดูว่าสามารถรับได้แค่ไหน โดยเฉพาะที่ต้องเจอซ้ำๆ ถ้าความอดทนต่ำก็แปลว่าสายใยผูกพันไม่ได้เหนียวแน่นหรือแข็งแรงอะไรเลย แต่หากยังรักมากอยู่อีก ใจเราจะยิ่งอดทนสู้มากขึ้น


แต่หากหมดแรงที่จะรัก ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องฝืน เพราะฝืนแล้วเราจะต้องทุกข์ เป็นธรรมชาติที่หลังจากร่วมคบหากันไปสักระยะตัวตนของทั้งคู่จะแสดงออกมา ตรงนั้นเราต้องเชื่อสามัญสำนึกแล้วว่าเราสามารถที่จะรับได้ไหม เมื่อหลังจากพยายามอดทนกล้ำกลืนระยะหนึ่งแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น บางทีการลองห่างกันไปบ้างเพื่อรักษาจิตใจก็อาจเป็นวิธีรักษาความรักไว้ แต่ถ้ากลับมาร่วมทางกันอีกครั้ง ให้ต่ออายุรักด้วยความตื่นรู้ที่จะละบาป ละเวร เลิกแล้วต่อกัน เปลี่ยนเป็นคิดดี พูดดี ทำดีต่อกัน การจากกันชั่วคราวของเรา จะเท่ากับเป็นการปล่อยให้ความรักตายไป เพื่อให้มันเกิดใหม่อย่างไร้มลทินในวันหนึ่ง


เราสามารถพัฒนาความรักฉันคู่รักขึ้นมาได้ ด้วยการพยายามตื่นรู้ที่จะแปรเปลี่ยนทุกเรื่องราว ทุกการกระทำต่อกันให้ดีขึ้น เมื่อละความหลงออกแล้วความตระหนักรู้ในสัจธรรมแห่งความเปลี่ยนแปลงก็จะเข้ามาแทนที่ คุณค่าสูงสุดของรักแท้ คือการมีกันและกัน เตือนสติกันและกัน ประคับประคองและเกื้อกูลกันบนเส้นทางที่สูงขึ้น จนกว่าจะถึงความสิ้นสุดแห่งทุกข์คือพระนิพพาน การพากันรักพระนิพพานนั่นแหละคือรักอันเหนือรักอย่างแท้จริงอันเป็นความรักที่จะพัฒนาตัวมันเองให้แผ่กว้างไปสู่สรรพชีวิต ไม่จำกัดอยู่แต่กับคู่รักเท่านั้น จึงมีแต่ได้กับได้ เพราะแม้ยังไปไม่ถึงฝั่ง อย่างน้อยที่สุดก็ได้ชื่อว่ารักจะเป็นสุข ไม่ใช่รักจะเป็นทุกข์เยี่ยงคนหลงทาง หาทางออกยังไม่เจอ


การที่จะให้คนอื่นมีความสุขนั้น การกระทำที่สำคัญคือการให้

โดย : ดังตฤณ ที่มา : วารสารพลั

4/02/2553

ภาพสปาจาก " เอ็มเอไอ เลเซอร์ & สปา"






มาดูภาพชั้น 2 ของ "เอ็มเอไอ เลเซอร์ & สปา" กันดีกว่า
มุมสงบ ผ่อนคลาย หลบความเครียดและอากาศร้อนๆ ด้วยสปาสไตล์เอริธ์โทน
ตัดกับบรรยากาศของเมืองหาดใหญ่


บนนี้ สาวๆ จะมา อบสมุนไพร-ขัดตัว-นวดน้ำมัน-อาบน้ำแร่ หรือบางคนก็เลือกมา
ลดน้ำหนักและสัดส่วน ด้วยเครื่องมืออันทันสมัย เช่น อบตัวด้วยอินฟาเรดซาวน่า
นวดกระชับ นวดสลายไขมัน ขจัดเซลลูไลท์เครื่องเธอมาเฟริส์ม [ Themafirm ] เป็นต้น.
หนุ่มๆ ก็มาผ่อนคลายเหมือนกันนะ ไม่ใช่เฉพาะสาวสาว แต่ต้องแยกเวลากันและ
โทรนัดล่วงหน้าค่ะ ยกเว้นมาเป็นคู่ค่ะ